นักกีฬาเพาะกายไทย ยังรอความหวังว่าจะได้รับเงินรางวัลจากผลงานความสำเร็จใน ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย และชิงแชมป์โลก ตั้งแต่ปี 2565 ที่รอคอยมา 3 ปี แล้ว ส่วนกรณีของ กัมพูชา ที่ถอนตัวจากการแข่งขันอาเซียนและเอเชีย เพราะมีปัญหาเรื่องข้อมูลข่าวสารภายในประเทศไม่ชัดเจน ถ้าเดินทางไปแข่งกีฬาที่ประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่ไทย เขื่อว่าไม่มีทางถอนตัว

    นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล เลขาธิการสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย และ นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากปัญหาเรื่องงบประมาณนั้น หลายๆ สมาคมกีฬาจะเจอเรื่องนี้กันหมด ล่าสุด เรื่องเบี้ยเลี้ยงของนักกีฬา ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ วันที่ 9-20 ธันวาคม ที่ตอนแรกมีปัญหานักกีฬามาโวยวายว่าไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยง จนทางกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้ชี้แจงและสรุปว่าได้แก้ปัญหาเรื่องเบี้ยเลี้ยงทุกอย่างเรียบร้อยลงตัว

   ในส่วนของเพาะกาย  จริงๆ แล้ว ยังมีปัญหาเรื่องเงินรางวัลของนักกีฬา จากผลงานชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย และชิงแชมป์โลก ซึ่งนักกีฬาเพาะกายยังไม่ได้เงินรางวัลตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ผ่านมา 3 ปี แล้ว นักกีฬายังไม่ได้รับเงินรางวัล และยังไม่มีคำตอบ ว่าได้หรือ ไม่ได้ ถึงแม้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะพยายามช่วยเหลือ ทุกทาง แต่ทางสมาคมฯ และนักกีฬา ยังมีความหวัง และกำลังรอคอยอยู่ เพราะตอนนี้รอคอยมา 3 ปี แล้ว  ซึ่งในปี 2565 เป็นปีที่ไทย เป็นเจ้าภาพชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 13 ที่ภูเก็ต

    ปีนี้ ทางสมาคมฯ ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเพาะกายชิงชนะเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 19 ที่จัดทดแทน การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพวันที่ 9-20 ธ.ค.ที่ไม่มีการบรรจุเพาะกาย  และอีกรายการ การแข่งขันเพาะกายและฟิตเนส ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 57 ที่  ห้องสุพรรณหงส์ โรงแรมอเล็กซานเดอร์  ถนนรามคำแหง เราดำเนินการจัดการแข่งขันไปก่อน การสนับสนุนเรื่องงบประมาณ จากทางภาครัฐบาลจะช่วยเหลือหรือไม่นั้น เราก็คงต้องรอ ถ้าให้การสนับสนุนก็จะถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

   ในการแข่งขันที่เราเป็นเจ้าภาพทั้ง 2 รายการ มีปัญหาในเรื่องของกัมพูชา ที่ถอนตัวจากการแข่งขันทั้ง 2 รายการ ช่วงนั้น ปัญหาทางชายแดนไทย-กัมพูชา ยังดูร้อนแรงอยู่ ซึ่งจากการพูดคุยกับทางนายกสมาคมกีฬาเพาะกายของกัมพูชา ได้แจ้งเหตุผลที่ถอนตัวจากทั้ง 2 รายการว่า เตรียมตัวไม่ทันที่จะเข้าแข่งขัน และได้แจ้งว่า ถ้าจะออกมาแข่งขันกีฬาที่ต่างประเทศต้องขอทางภาครัฐบาลก่อน

   ซึ่งในช่วงนั้น จากปัญหาความไม่สงบทางชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้ข้อมูลข่าวสารภายในของกัมพูชาไม่มีความชัดเจน ทำให้ทางกัมพูชากลัวว่า ถ้ามาเมืองไทย อาจจะมีในเรื่องความไม่ปลอดภัย และอาจจะไม่ได้รับความสะดวกสบาย เราในฐานะประเทศเจ้าภาพ จึงยอมรับเหตุผลของทางกัมพูชาที่ยังไม่กล้าเดินทางมาแข่งขันที่ไทยในช่วงนั้น เช่นเดียวกับนักกีฬาไทย เอง ก็ต้องยอมรับว่า ไม่กล้าเดินทางไปแข่งที่กัมพูชา เช่นกัน

    จริงๆ แล้ว กีฬาไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่ถ้าไปแข่งในประเทศที่ไม่ใช่ไทยหรือกัมพูชา น่าจะโอเคกว่า เช่น ปีหน้า เมียนมา เป็นเจ้าภาพ เพาะกายชิงชนะเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 20 และ มาเลเซีย เจ้าภาพชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 58 น่าจะไม่มีปัญหา

   ส่วนกรณีที่กัมพูชา ส่งรายชื่อจะมาแข่งซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เป็นจำนวนหลายร้อยคน นั้น มันอยู่ที่ความสัมพันธ์ของสหพันธ์กีฬาแต่ละชนิดกีฬากับทางกัมพูชา ว่ามีความสมานฉันท์แค่ไหน เชื่อว่าในอนาคตปัญหาความขัดแย้งทุกอย่างน่าจะคลี่คลายและดีขึ้น

https://www.kaosanonline.com/?p=84368

By admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *