ธนาคาร เฟิร์สท ซิติเซนส์ ของสหรัฐ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการของ ธนาคาร ซิลิคอน แวลลี ที่ล้มละลายและถูกสั่งปิดกิจการไปเมื่อต้นเดือน มีนาคม จนทำให้เกิดความวิตกกังวลไปทั่วโลก
ซิลิคอน แวลลี (เอสวีบี) ซึ่งเป็นผู้ให้กู้รายสำคัญแก่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 กลายเป็นธนาคารสหรัฐรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐที่ล้มเหลวนับตั้งแต่ปี ค.ศ.2008
หน่วยงานกำกับดูแล ที่ได้เข้ามาดูแลหลังจากขาดสภาพคล่องและลูกค้าแห่ถอนเงินฝากอย่างกะทันหัน ตั้ง ซิลิคอน บริดจ์ แบงก์ ขึ้นมาเป็นธนาคารกลาง โดย เฟิร์สท ซิติเซนส์ จะเป็นผู้รัรบช่วงต่อกิจการของ เอสวีบี ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม เป็นต้นไป รายงานระบุว่า เฟิร์สท ซิติเซนส์ ได้ตกลงซื้อ เงินกู้ทั้งหมดและทรัพย์สินอื่นๆจำนวนมาก และเงินฝากของลูกค้าทั้งหมด รวมถึงหนี้สินอื่นๆบางตัวของ ซิลิคอน แวลลีย์ บริดจ์ แบงค์
เท่ากับว่า 17 สาขาของ เอสวีบี เปิดทำการในวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ ในชื่อ ธนาคาร ซิลิคอน แวลลี่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ธนาคาร เฟิร์สท ซิติเซนส์ ธุรกรรมดังกล่าว ประกอบด้วยการขายสินทรัพย์เป็นมูลค่า 72,000 ล้านดอลลาร์ (2.4 ล้านล้านบาท) ในราคาที่ลดลงไป 16,500 พันล้านดอลลาร์ (5.6 แสนล้านบาท)