สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) นำคณะผู้บริหาร และสื่อมวลชน ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช โดยมี นางจิราพร อมาตยกุล รองผู้ว่าราชการ จ.นครศรีธรรมราช ให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวถึงแนวทางการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ให้ นาง สุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. และคณะสื่อมวลชนได้รับฟังพร้อมกัน โดยมีนายมานพ ลิ้มทองใบ ผอ.ศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังฯ บรรยายสรุปถึงการบริหารจัดการประตูระบายน้ำ อุทกวิภาชประสิทธิ ในปัญหา 4 น้ำ 3 รส ทั้งน้ำท่วม/ น้ำแล้ง/ น้ำเค็ม/ น้ำเปรี้ยว/ และรสเค็ม/ รสเปรี้ยว/ รสจืด/ พร้อมทั้งการสนับสนุนน้ำทำการเกษตร อุปโภคบริโภคของประชาชน

จากนั้น นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. ได้ไปเยี่ยมชมการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังฯ ภายใต้ศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานในการประสานงานฯ ให้เป็นไปตามพระราชดำริ โดยจุดแรกที่ได้ไปเยี่ยมชมคือ ศูนย์ผลิตและส่งเสริมพันธุ์สัตว์พระราชทานปากพนัง ซึ่งดำเนินการผลิตไก่ไข่ เพื่อส่งมอบให้แก่โรงเรียนและชุมชนภายใต้โครงการไก่ไข่พระราชทานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โดยกรมปศุสัตว์// และไปเยี่ยมชม ศูนย์เรียนรู้การทำไร่จาก*** โดยพาชมระบบนิเวศป่า/ ชิมผลิตภัณฑ์จากต้นจาก/ อาทิ น้ำผึ้งป่าจาก/น้ำตาลจากชนิดผง/ โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช)// รวมถึงได้ไปเยี่ยมชม แปลงสาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่ พอ…เพียงนี้ก็พอ… ซึ่งรวบรวมกิจกรรมทั้งด้านปศุสัตว์ ประมง การเพาะปลูกแบบผสมผสานตามลักษณะภูมิสังคมและภูมิประเทศของพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง และการอนุรักษ์ ขยายพันธุ์สัตว์และพืชพื้นถิ่น เช่น ปลาดุกลำพัน และส้มโอทับทิมสยาม นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวา อีกด้วย
นอกจากนี้ คณะผู้บริหาร กปร. และสื่อมวลชนได้เดินทางไปยังสวนส้มโอทับทิมสยาม (ไร่สวัสดิ์สุข) ของนางอัมพร สวัสดิ์สุข ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริฯ ที่ อ.ปากพนัง โดย ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ มีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การขยายพันธุ์ และแปรรูปผลผลิตจากส้มโอทับทิมสยาม*** วิธีการดูแลแปลง ตลอดถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิตส้มโอ เพื่อส่งจำหน่าย และยังมีแนวทางเตรียมพัฒนาต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกด้วย
ทั้งนี้ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นศูนย์สาขาของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นราธิวาส ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 2,290,194 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัด 13 อำเภอ ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช 10 อำเภอ/ จ.พัทลุง 2 อำเภอ/ และ จ.สงขลา 1 อำเภอ/ เป็นโครงการในพระราชดำริของ รัชกาลที่ 9 เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ และส่งเสริมอาชพเกษตรกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มั่นคงและยั่งยืน บนฐานทรัพยากรที่สมดุล และมีการขยายผลสำเร็จสู่ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ 16 แห่ง
อย่างไรก็ตาม นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร ยังลงพื้นที่ ไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใสอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยมี นายเสกสรร ทรัพย์เจริญ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปากพนังบน (โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใสฯ) บรรยายผลสำเร็จของการบริหารจัดการน้ำ ที่ผ่านมา ระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2521 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายเกื้อ นกจันทร์ ผอ.สนง.ชลประทานที่ 11 (ในขณะนั้น) เข้าเฝ้าฯ ณ โรงปูนซิเมนต์ทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และมีพระราชวินิจฉัยเกี่ยวกับโครงการชลประทาน โครงการเขื่อนเก็บน้ำห้วยน้ำใส ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างระยะยาว ฉะนั้นเห็นควรพิจารณาก่อสร้างฝายทดน้ำ หรือเขื่อนทดน้ำคลองไม้เสียม (ห้วยน้ำใสตอนล่าง) พร้อมระบบส่งน้ำเร่งด่วนก่อน เพื่อส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกสองฝั่งคลองไม้เสียบไปพรางก่อน เมื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใสแล้วเสร็จ ก็จะช่วยสนับสนุนโครงการชลประทานดังกล่าวได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใสฯ ไม่เพียงเป็นแหล่งน้ำสำคัญของลุ่มน้ำปากพนัง แต่ยังสร้างประโยชน์ให้ชุมชนรอบพื้นที่ ทั้งการปลูกพืชเศรษฐกิจ การแปรรูปผลผลิต และการจัดการตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้เกษตรกรและนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาคณะฯ เดินทางไปยังสวนบุญธรรม ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ของนายเอนก วรนันท์ปัญญา เกษตรกรผู้ใช้น้ำจากโครงการห้วยน้ำใสฯ โดยนายอเนก ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การทำเกษตรผสมผสาน ทั้งการปลูกทุเรียน มังคุด มะพร้าว มัลเบอร์รี่ รวมถึงการผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพสำหรับการบำรุงดิน พร้อมทั้งชมกิจกรรมการแปรรูปผลผลิต เช่น แยมและเครื่องดื่มจากมัลเบอร์รี่ มะพร้าวแก้ว และไวน์ผลไม้ ซึ่งสร้างรายได้เสริมและเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้เป็นอย่างดี
และคณะฯ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมชม ศูนย์เรียนรู้ป่าต้นน้ำ ไร่ธิดาวัลย์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเครือข่ายโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังฯ โดยมีนายประนอม ปราบแก้ว ประธานศูนย์ฯ นำชมกิจกรรมเกษตรผสมผสานครบวงจร ทั้งการเลี้ยงโคขุน เป็ด ไก่ การปลูกข้าว พืชผักสวนครัว พืชเศรษฐกิจ อาทิ ส้มโอทับทิมสยาม มะพร้าวน้ำหอม ชมพู่ทับทิมจันทร์ ปาล์มน้ำมัน รวมถึงการเลี้ยงปลา และกบ โดยการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นต้นแบบและต่อยอดเป็นพื้นที่เรียนรู้ แก่เกษตรกรในชุมชนซึ่งที่ผ่านมาได้มีผู้มาเยี่ยมชม ศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง