สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เผย ปีงบประมาณ 2568 ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ตอกย้ำสถานะของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางชั้นนำและเป็นที่ต้องการสำหรับการจัดงานไมซ์และงานเมกะอีเวนท์ โดยตลอดปีงบประมาณที่ผ่านมา ประเทศไทยคว้างานอีเวนท์ขนาดใหญ่ระดับนานาชาติได้รวม 30 งาน ครอบคลุมทุกภาคส่วนของกิจกรรมไมซ์และเมกะอีเวนท์ โดยบางงานมีกำหนดจัดงานปี 2572 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นระยะยาวจากพันธมิตรนานาชาติ และตอกย้ำความแข็งแกร่งของระบบนิเวศไมซ์ในประเทศไทย ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นจากทุกภาคส่วน 

 ดร. ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานคว้าสิทธิ์จัดงานนานาชาติขนาดใหญ่ 30 งานในปีงบประมาณ 2568 สะท้อนวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของทีเส็บและขีดความสามารถของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดงานไมซ์และเมกะอีเวนท์ระดับนานาชาติ การคว้าสิทธิ์เป็นเจ้าภาพการจัดงานเป็นข้อพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นที่นานาชาติมีต่อระบบนิเวศไมซ์ของไทย อีกทั้งยังตอกย้ำความมุ่งมั่นของทีเส็บในการใช้อุตสาหกรรมไมซ์เป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงวิชาชีพ ส่งเสริมการเติบโตภาคธุรกิจและเศรษฐกิจ รวมถึงการยกระดับภาพลักษณ์และบทบาทของประเทศไทยบนเวทีโลกในระยะยาว” 

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – กันยายน 2568) ประเทศไทยคว้าสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับนานาชาติรวมทั้งสิ้น 30 งาน โดยจะมีผู้เข้าร่วมงานรวม 109,000 คน และคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 9,845 ล้านบาท ความสำเร็จในการคว้างานระดับนานาชาติครอบคลุมทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งการประชุม (Meetings) การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) การประชุมนานาชาติ (Conventions) การจัดแสดงสินค้า (Exhibitions) ตลอดจนงานเมกะอีเวนท์ (Mega Events) โดยในส่วนการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (MI) ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน Amway Leadership Seminar ณ กรุงเทพมหานคร ในช่วงเดือนมีนาคม–เมษายน 2569 จะมีผู้เข้าร่วมจากสาธารณรัฐประชาชนจีนกว่า 10,000 คน สำหรับการประชุมนานาชาติ (C) งาน International Dragon Award Annual Conference 2027 ที่กรุงเทพฯ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมจากต่างประเทศราว 7,500 คน ส่วนงานแสดงสินค้า (E) งาน Gastech 2026 ที่กรุงเทพฯ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 50,000 คน ประเทศไทยยังได้รับสิทธิ์จัดงานเมกะอีเวนท์อีก 2 งาน โดยจังหวัดเชียงรายได้รับการยืนยันเป็นเจ้าภาพ Spartan SUPER World Championship ระหว่างปี 2569–2571 คาดว่าจะมีนักกีฬาและผู้เข้าร่วมรวม 60,000 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลก ส่วนอีกงานคือ Tough Mudder ที่พัทยา คาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าร่วมงานราว 16,000 คน 

นอกจากนี้ ยังมีงานประชุมนานาชาติอีกหลายรายการ ซึ่งแต่ละงานคาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าร่วมจากต่างประเทศมากกว่า 1,000 คน อาทิ WBC Annual Convention ครั้งที่ 63 และ WBC Muaythai Convention ครั้งที่ 1 รวมกันคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 2,000 คน การประชุมสหพันธ์สมาคมเภสัชกรรมแห่งเอเชีย ครั้งที่ 31 (FAPA 2026) คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 2,000 คน การประชุม Asian Pacific Orthodontic Congress (APOC 2028) คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมราว 1,200 คน และงานประชุม World Society for Reconstructive Microsurgery 2029 (WSRM 2029) คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 1,500 คน 

“การได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนานาชาติในอีกสี่ปีข้างหน้า รวมถึงงาน WSRM 2029 แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนานาชาติที่มีต่อประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางไมซ์ชั้นนำ ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงระบบนิเวศไมซ์ที่มีการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็ง ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่าการจัดงานต่างๆ จะตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้ ตัวอย่างเช่น งาน Gastech ที่เกิดจากความร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน และงาน Amway Leadership Seminar ที่ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำเสนอโปรแกรม ‘Slow Living of Bangkok’ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมค้นพบกรุงเทพฯ ในมุมมองใหม่ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยที่ได้รับความไว้วางใจ มีความเป็นมืออาชีพ และมีมาตรฐานระดับโลก ขณะเดียวกัน การที่จังหวัดเชียงรายได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Spartan SUPER World Championship ต่อเนื่องระหว่างปี 2569–2571 ยังตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในการรองรับการจัดงานระดับนานาชาติในพื้นที่นอกเมืองหลักได้เป็นอย่างดี” ดร. ศุภวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

https://www.kaosanonline.com/?p=88942

By admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *