“Two Charuson” หรือศิลปิน และนักดนตรีในนาม “Wicked Lights” ผู้คร่ำหวอดกับงานเพลงเบื้องหลังมากกว่าสามทศวรรษ ขัดเกลาฝีมือ และเรียนรู้เครื่องดนตรีต่าง ๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานในแบบฉบับที่ตนเองชื่นชอบ ล่าสุดเขาปล่อยอัลบั้มใหม่ใช้ชื่อว่า “Brave Face” ส่ง 12 บทเพลงสไตล์ Alternative น่าฟัง มาพร้อมอัพบีทที่ติดหู ดนตรีของ “Wicked Lights” แต่งขึ้นและพัฒนามาจากประสบการณ์โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการดิ้นรนเพื่อลุกขึ้นสู้ใหม่ ความเจ็บปวด ความผูกพันในความรักที่ไม่อาจโบกมืออำลา จนสามารถสัมผัสได้ถึงความท้อแท้ ความสุข ความรัก ความเศร้า ความกล้าหาญ และความสนุกสนาน และในอัลบั้ม “Brave Face” ยังมีเพลงโฟกัสหลักถึง 5 เพลงได้แก่ Kushty, Edin, Solid Ground, Budapest, On The Rocks ที่สามารถบ่งบอกถึงตัวตนของ “Wicked Lights” ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
          เขาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของอัลบั้ม “Brave Face” ไว้ว่ามันเกิดขึ้นหลังจากที่ตัวเขาประสบอุบัติเหตุ ตอนนั้นความฝันและความหวังได้หายไปหลังจากพบเจอกับมรสุมชีวิตอย่างหนัก แต่เขาได้รวบรวมความเข้มแข็ง และความพยายามตั้งแต่การกายภาพบำบัด จนกลับมาเดินได้ และสามารถกลับมาทำสิ่งที่เขารักได้ในที่สุดนั่นก็คือการแต่งเพลง โดยเพลงทั้งหมดเริ่มเขียนเมื่อ 6 ปีที่แล้ว และ “Two Charuson” ยังได้กล่าวเอาไว้อีกว่า “ผมอยากให้คนเปิดเพลงของผม ฟังแล้วรู้สึกมีความหวัง สิ่งที่เกือบจะใช้ชีวิตปกติไม่ได้แต่ก็กลับมาได้ สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นแค่ความทรงจำ”
          โดยแนวเพลงในอัลบั้ม “Brave Face” เขานิยามไว้ว่ามันคือ Alternative แม้จะมีเนื้อหาเพลงที่ฟังดูเศร้า และ ขมขื่น แต่ก็เต็มไปด้วยแรงปรารถนา ผ่านเสียงกีต้าร์โปร่ง และเนื้อสัมผัสแบบโฟล์ค ทำให้เสียงของ “Two Charuson” ทำงานได้เต็มช่วง จนเกิดเป็นเสียงเอิร์ธโทนที่นุ่มนวล และชวนให้คิดถึงใครซักคน การทำงานของเขาในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการแต่งเพลง การทำดนตรี ทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอด พร้อมเรียบเรียงในสมัยที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอังกฤษ และอเมริกัน ซึ่งมันไม่ธรรมดาเลยที่ศิลปินชาวไทยจะมีความมุ่งมั่น และพยายามค้นหาแนวเพลงที่แตกต่างจากดนตรีส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
          ความพิเศษของการทำงานในครั้งนี้ “Two Charuson” ยังเล่าอีกว่าเขาได้ “เจ-มณฑล จิรา” มานั่งแท่นคุมงานโปรดิวเซอร์ และ Mixing Engineer ให้ทุกเพลงในอัลบั้ม “Brave Face” จนสมบูรณ์แบบในตัวสไตล์ดนตรีที่น่าฟัง และเข้าถึงได้ง่ายกับทุกคน โดย “Two Charuson” ได้กล่าวไว้ว่า “ผมเจอคุณเจตั้งแต่ 14-15 ปีที่แล้ว เราต่างคนต่างเห็นถึงความสามารถของกันและกัน แต่ส่วนตัวผมมองว่าคุณเจเก่งกว่าผมเยอะ เขาเป็นคนที่รักการเรียนรู้ ผมจึงเชื่อมั่นในตัวคุณเจมาก เขาเป็นอีกครึ่งหนึ่งในเพลงของผม ถ้าไม่มีคุณเจก็ไม่มีเพลงของผมในวันนี้ ผมอยากให้คนไทยภูมิใจที่มีศิลปินไทย ที่สามารถทำเพลงสากล และก้าวสู่การเป็น Global Artist ได้ เช่นเดียวกับคุณเจ มณฑล ที่ปัจจุบันเค้าคือ Global Artist ในสายตาของผมครับ”

By admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You missed